การเลือกพัตเตอร์
จะเลือกโดยแบ่งหลักๆตามเทคนิคการพัตต์ของแต่ละผู้เล่น อย่างแรก คือผู้มีเทคนิคการพัตที่โค้งตัวเยอะๆ ส่วนใหญ่จะเป็นนักกอล์ฟที่ค่อนข้างสูง ข้อดีของการเล่นวิธีนี้คือ สายตาจะตรงกับลูกการมองเห็นไลน์จะทำได้ดี สำหรับผู้เล่นที่มีเทคนิคแบบนี้ ควรเลือกพัตเตอร์ที่มีความยาวที่ไม่ยาวนักหรือสั้นกว่าปกติเนื่องจากก้มเยอะ ควรเลือกความยาวประมาณ 32 นิ้ว โดยปกติจะประมาณ 33-34 นิ้ว การพับตัวเยอะสายตาจะอยู่บนเป้ามากขึ้น สโตรกการพัตหรือสวิงพาร์ท จะเป็นเส้นตรง พัตเตอร์ที่ควรใช้ตวรเป็นพัตเตอร์ที่สโตรกเป็นเส้นตรงได้ง่าย หรือพัตเตอร์เป็นสเปซบาลานซ์หรือว่าบาลานซ์ของหน้าพัตเตอร์เท่ากัน จุดหมุนของหน้าพัตเตอร์จะอยู่ตรงกลางจะไม่เอนไปขอไม้หรือปลายไม้มากเกินไป วิธีดูพัตเตอร์สเปซบาลานซ์ให้ดูจากรูปทรง ส่วนเป็น mallet จะเป็นลักษณะโค้ง วิธีการเช็คก็คือถ้าไม้ขนานกับพื้นโลกไม่เอียงไปด้านใดด้านนึงแสดงว่าเป็นไม้แบบสเปซบาลานซ์ เวลาสโตรกจะเป็นเส้นตรงมากขึ้น แล้วถ้าเลือกพัตเตอร์ที่ไม่เหมาะเวลาพัตจะทำให้ไม่เป็นธรรมชาติและด้วยความที่ไม้เป็นก้านสั้น สวิงเวดจ์ของไม้จะต้องหนักกว่าพัตเตอร์ที่เป็นก้านยาวเพื่อถ่วงให้ปลายหนักขึ้น
แบบที่สองคือนักกอล์ฟที่พับตัวน้อยหรือยืนเกือบตรง ควรเลือกพัตเตอร์ที่ก้านปกติหรือคนที่ตัวสูงก็เลือกแบบที่ยาวขึ้นไป ประมาณ 34 นิ้ว ในการยืนลักษณะแบบนี้ สโตรกในการสวิงก็จะโค้งขึ้นมาหน่อย ควรเลือกปลายพัตเตอร์ที่มีลักษณะตกลงเมื่อมีการเทสต์บาลานซ์ หรือจุดหมุนของพัตเตอร์ค่อนมายังด้านโคนกว่าปกติ ซึ่งพัตเตอร์ประเภทนี้จะหาได้ค่อนข้างง่าย ในเรื่องสวิงเวดจ์ก็ไม่มีปัญหาเพราะว่าหนักอยู่แล้ว
แบบที่สามคือ นักกอล์ฟที่ยืนแคบๆมือติดตัว สำหรับผู้ที่มีเทคนิคแบบนี้ควรเลือกพัตเตอร์แบบปกติหรือสั้นกว่าปกติเล็กน้อย ที่สำคัญคือหัวพัตเตอร์หรือบาลานซ์จะต้องตกลงพื้น 90 องศาเพราะว่า จุดหมุนของหน้าพัตเตอร์จะอยู่ที่โคนไม้ ดังนั้นเวลาพัตจะมำให้ โค้งตอนแบ็กสวิงโค้งกลับได้ เวลามี่ใช้ข้อมือจะสามารถควบคุมการปิดเปิดได้ง่ายกว่า ส่วนผู้ที่มีเทคนิกการพัตแบบนี้หรือพัตเตอร์แบบนี้จะมีจุดด้อยคือ อาจจะควบคุมหน้าพัตเตอร์ให้สแควร์ได้ยาก อาจจะเหมาะกับบางสนามที่กรีนฝืดๆหญ้าเยอะใช้เทคนิคแบบนี้ก็จะตัดไลน์ นี่ก็เป็นเทคนิคหลักๆ สามแบบสำหรับการเลือกซื้อพัตเตอร์
ที่มา : Club18golf
Putter คลิกที่นี่